100 สำนวนไทย ที่ใช้บ่อย ในชีวิตประจำวัน

สำนวนไทย รวม 100 สำนวนไทย ที่ใช้บ่อย มาทำการเรียนรู้กัน จะมีคำไหนที่เรารู้จักไหมนะ ไปดูกันเลย

สำนวนไทย หมายถึง ถ้อยคำ กลุ่มคำ หรือประโยคที่ไม่ได้แปลความหมายตรงตัว แต่มีความหมายเชิงเปรียบเทียบแฝงอยู่ ส่วนใหญ่เป็นสำนวนที่เกิดจากวัฒนธรรมและพฤติกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันของคนไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน


รวม 100 สำนวนไทยที่ใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน

  1. กบเลือกนาย
    หมายถึง ผู้ที่ต้องการเปลี่ยนผู้บังคับบัญชาอยู่เรื่อย ๆ
  2. กบในกะลาครอบ
    หมายถึง ผู้มีความรู้และประสบการณ์น้อย แต่สำคัญตนว่ามีความรู้มาก
  3. กรวดน้ำคว่ำกะลา
    หมายถึง ตัดขาดไม่ขอเกี่ยวข้องด้วย
  4. กรวดน้ำคว่ำขัน
    หมายถึง การตัดขาดไม่ขอเกี่ยวข้องด้วย เลิกไม่คบหาสมาคมกันต่อไป
  5. กระดูกสันหลังของชาติ
    หมายถึง คำนี้คือคำเปรียบความสำคัญของชาวนาคือกระดูกสันหลังของชาติ ผู้ผลิตอาหาร ปัจจัยหลักของประเทศและของโลกใบนี้
  6. กระต่ายขาเดียว
    หมายถึง การยืนกรานไม่ยอมรับผิด ปากแข็งยืนยันคำพูดเดิม
  7. กระต่ายสามขา
    หมายถึง ยืนกรานไม่ยอมรับ
  8. กระต่ายหมายจันทร์
    หมายถึง การที่ผู้ชายฐานะยากจนกว่าฝ่ายหญิงแต่ไปหลงรักหมายปองชอบผู้หญิงที่มีฐานะดีกว่า โอกาสที่จะสมหวังได้นั้นคงค่อนข้างยากเพราะพ่อแม่ของฝ่ายหญิงคงไม่ชอบและคงต้องคอยกีดกัน เปรียบเทียบผู้ชายเป็นเหมือนกระต่ายที่เฝ้ามองดวงจันทร์ที่ลอยสูงเด่นอยู่เหนือท้องฟ้าในยามค่ำคืน ทำอย่างไรก็ไม่มีทางและโอกาสที่จะไปสัมผัสกับดวงจันทร์ได้
  9. กระต่ายแหย่เสือ
    หมายถึง การไปล้อเล่น ท้าทายกับผู้ที่มีอำนาจ บารมีมากกว่า ซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายได้
  10. กระเชอก้นรั่ว
    หมายถึง สุรุ่ยสุร่าย ไม่รู้จักเก็บหอมรอมริบ ขาดการประหยัด
  11. กระโถนท้องพระโรง
    หมายถึง กระโถนใหญ่ที่ตั้งไว้ที่ท้องพระโรงในศาลาลูกขุนใน สำหรับที่ใคร ๆ บ้วนน้ำหมากหรือทิ้งชานหมากได้
  12. กลับเนื้อกลับตัว
    หมายถึง เลิกทําความชั่วหันมาทําความดี
  13. กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
    หมายถึง การกระทำที่ตัดสินใจไม่ถูก ตัดสินใจได้ยากว่าจะเลือกทางไหน เนื่องจากทั้งสองทาง ก็ส่งผลกระทบด้านลบทั้งสองทางเลือก เปรียบเปรยถึง มีก้างปลาติดอยู่ในคอซึ่งกลืนก็ไม่เข้าท้อง คายก็ไม่สามารถทำได้ง่าย
  14. กาคาบพริก
    หมายถึง ลักษณะคนผิวดำแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าสีแดง
  15. กาฝาก
    หมายถึง แฝงอยู่กับคนอื่นโดยไม่ทำประโยชน์ให้
  16. กำปั้นทุบดิน
    หมายถึง การพูดแบบกว้าง ๆ อาจจะตรงประเด็นหรือไม่ตรง เป็นการตอบที่ไม่ใช่คำตอบที่ผิด แต่เป็นการตอบที่ไม่ได้ประโยชน์แก่ผู้ฟัง
  17. กินข้าวต้มกระโจมกลาง
    หมายถึง ทำอะไรด้วยความใจร้อนไม่พิจารณาให้รอบคอบ มักเป็นผลเสียแก่ตน
  18. กินน้ำใต้ศอก
    หมายถึง จําต้องยอมเป็นรองเขา ไม่เทียมหน้าเทียมตาเท่า (มักหมายถึงเมียน้อยที่ต้องยอมลงให้แก่เมียหลวง)
  19. กินบนเรือนขี้บนหลังคา
    หมายถึง คนเนรคุณ ไม่รู้จักบุญคุณคน เหมือนผู้ที่อาศัยพักพิงบ้านเขา แต่กลับทำเรื่องเดือดร้อน สร้างความเสียหาย ให้กับเจ้าของบ้าน
  20. กินปูนร้อนท้อง
    หมายถึง เปรียบเหมือนคนเมื่อทำความผิดแล้วเกรงว่าคนอื่นจะจับความผิดของตนได้ อันที่จริง เฉยไว้ก็ไม่มีใครรู้แต่กลับแสดงอาการพิรุธออกมาให้เห็นก่อนที่คนอื่นจะรู้
  21. กินแกงร้อน
    หมายถึง ทำอะไรจวนตัว มาถึงตัวแล้วเพิ่งจะเริ่มทำ จนทำให้ลนลาน
  22. กิ่งทองใบหยก
    หมายถึง เปรียบเทียบของสองสิ่งที่ดูดี มีคุณค่าเสมอกัน เหมาะสมกัน
  23. กิ้งก่าได้ทอง
    หมายถึง คนที่ได้ลาภยศแล้วทะนงตนลืมฐานะเดิม
  24. ก่อร่างสร้างตัว
    หมายถึง ตั้งเนื้อตั้งตัวเป็นหลักฐาน
  25. ขนทรายเข้าวัด
    หมายถึง ทําบุญกุศลโดยวิธีนําหรือขนทรายไปก่อพระเจดีย์ทรายเป็นต้นที่วัด (สำ) หาประโยชน์ให้ส่วนรวม
  26. ขนมพอสมกับน้ำยา
    หมายถึง ใช้ในการเปรียบเทียบของทั้งสองสิ่งนั้นมีมูลค่า, ความดีความร้าย, ความสามารถ นั้นพอ ๆ กัน ไม่ด้อยไปกว่ากัน
  27. ขมิ้นกับปูน
    หมายถึง ชอบวิวาทกันอยู่เสมอเมื่ออยู่ใกล้กัน ไม่ถูกกัน
  28. ขี่ช้างจับตั๊กแตน
    หมายถึง การทำอะไรที่มากเกินตัว
  29. คนละไม้คนละมือ
    หมายถึง ต่างคนต่างช่วยกันทำ ทำด้วยความสามัคคีกัน อย่างตั้งใจช่วยเหลือเกื้อกูลกันทำงานเพื่อผลสำเร็จ
  30. คนสามขามีปัญญาหาไว้ทัก ที่ไหนหลักแหลมคำจงจำเอา
    หมายถึง ผู้เฒ่าผู้แก่หรือผู้สูงอายุนับว่าเป็นผู้ผ่านโลกมาก่อน ย่อมมีประสบการณ์มาก จะทำสิ่งใดจึงควรขอคำแนะนำ
  31. คมในฝัก
    หมายถึง มีความรู้ความสามารถแต่เมื่อยังไม่ถึงเวลาก็ไม่แสดง ออกมาให้ปรากฏ
  32. คลื่นใต้น้ำ
    หมายถึง เหตุการณ์ที่กรุ่นอยู่ภายใน แต่ภายนอกดูเหมือนสงบเรียบร้อยหรือพวกคลื่นใต้น้ำชอบก่อหวอดก่อเหตุการณ์วุ่นวาย ภายในคอยแซะอย่างลับหลัง
  33. คลุมถุงชน
    หมายถึง ลักษณะที่ทั้ง 2 ฝ่ายมาเผชิญกันทั้งที่ไม่เคยเห็นไม่เคยรู้จักกันมาก่อน มักใช้แก่ประเพณีแต่งงานสมัยก่อนที่พ่อแม่เป็นผู้จัดการให้โดยที่เจ้าตัวไม่เคยรู้จักหรือรักกันมาก่อนเหมือนแกมบังคับให้โดนจับคู่กัน
  34. คับที่อยู่ได้คับใจอยู่ยาก
    หมายถึง ที่อยู่แม้จะคับแคบก็อยู่ได้ถ้าสบายใจ แต่ถ้าอึดอัดใจ ที่อยู่จะกว้างขวางใหญ่โตอย่างไรก็อยู่ไม่ได้
  35. คางคกขึ้นวอ
    หมายถึง คนที่มีฐานะต่ำต้อย พอได้ดิบได้ดี ลืมตัวลืมกำพืด ลืมชาติกำเนิดตัวเอง ดูถูกเหยียดหยามสิ่งที่ตัวเองเคยเป็น
  36. ฆ้องดีถ้าไม่ตีก็ไม่ดัง
    หมายถึง ผู้ที่มีคุณความดีในตัวนั้นถ้าไม่มีใครยกย่องชมเชยก็จะไม่มีใครเห็นความดีนั้น เปรียบดังฆ้องคุณภาพดี แต่ก็ต้องมีคนดีถึงจะมีเสียงดังขึ้นมา
  37. ฆ้องปากแตก
    หมายถึง คนที่เก็บความลับไม่อยู่ ชอบนำความลับหรือเรื่องไม่ดีของผู้อื่นไปโพนทะนา ทำให้ผู้อื่นได้รับความเดือดร้อน
  38. งูกินหาง
    หมายถึง พัวพันเกี่ยวโยงกันไปเป็นทอด ๆ จนหาที่สิ้นสุดไม่ได้
  39. จมูกมด
    หมายถึง รู้ทันเหตุการณ์ผู้หญิงคนนั้นเป็นคนจมูกมด มักจะรู้เรื่องราวทุกอย่างในหมู่บ้านตลอดเวลา รู้อะไรไปหมด รู้ก่อนคนอื่นตลอด
  40. จับปลาสองมือ
    หมายถึง การที่คน ๆ หนึ่งทำสิ่งใดที่ยากพร้อม ๆ กันทำให้ล้มเหลวทั้งสองสิ่งนั้น
  41. จับปูใส่กระด้ง
    หมายถึง การที่คน ๆ หนึ่งพยายามดูแลเด็กเล็ก ๆ โดยพยายามให้อยู่นิ่ง ๆ หรือเป็นระเบียบ แต่เด็กก็ซุกซนไม่อยู่นิ่ง
  42. ชักใย
    หมายถึง บงการอยู่เบื้องหลัง
  43. ชาติเสือจับเนื้อกินเอง
    หมายถึง คนที่เชื่อมั่นและถือศักดิ์ศรีของตน แม้จะลำบากยากแค้นก็ไม่ยอมรบกวนและเบียดเบียนใคร หรือการทำมาหากินด้วยความอุตสาหะไม่เบียดเบียนผู้อื่น
  44. ชาติเสือไม่ทิ้งลาย
    หมายถึง เป็นผู้ชายต้องมีความเก่งกล้าสามารถ มีความองอาจแข็งแรง ไม่อ่อนแอเหมือนผู้หญิง
  45. ชี้โพรงให้กระรอก
    หมายถึง ผู้ที่ชอบทำอะไรก็ตามเป็นนิสัยเดิมอยู่แล้ว เมื่อมีคนมาบอกกล่าวก็จะลงมือทำทันที เช่น เป็นคนชอบเที่ยวถ้ามีผู้บอกว่าที่นั่นที่นี่น่าเที่ยวก็จะไป หรือผู้มีนิสัยเป็นคนขี้ลักขี้ขโมยถ้ามีผู้บอกว่า บ้านนั้นบ้านนี้มีทรัพย์สินเงินทองมาก ก็จะหาทางเข้าไปขโมยหรือลักทรัพย์ในบ้านนั้น เช่นนี้ เรียกว่า ชี้โพรงให้
  46. ชุบมือเปิบ
    หมายถึง ฉวยโอกาส เอาสิ่งของคนอื่นทำจนสำเร็จแล้วมาเป็นประโยชน์ของตน โดยที่ไม่ได้มีส่วนร่วมเกี่ยวข้องอะไรมาก่อนเลย
  47. ช้างสาร งูเห่า ข้าเก่า เมียรัก
    หมายถึง สิ่งที่ไม่น่าไว้วางใจ เพราะรู้ตื้นหนาบางของเราเป็นอย่างดี
  48. ช้างสารชนกัน หญ้าแพรกก็แหลกลาญ
    หมายถึง คนใหญ่คนโตขัดแย้งมีปัญหากัน หรือผู้นำของแต่ละฝ่ายนั้นมีปัญหาทะเลาะกัน แต่ส่งผลให้ผู้น้อยหรือประชาชน ลูกน้องนั้นได้รับผลกระทบไปตาม ๆ กัน
  49. ช้างเท้าหลัง
    หมายถึง ภรรยา (อาจจะเป็นผู้ชายก็ได้ในปัจจุบัน) ผู้ตาม ผู้คอยหนุนหลัง สนับสนุนผู้นำของตัวเอง หรือสามี
  50. ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน
    หมายถึง ความซื่อสัตย์ทำให้คนเชื่อใจ มีคนนับถือ ไม่มีวันอดตาย มีคนคอยช่วยเหลือ แต่หากมีนิสัยคดโกง เมื่อถูกจับได้ย่อมไม่มีใครอยากช่วยเหลือหรือเกี่ยวข้องด้วย
  51. ดอกไม้ริมทาง
    หมายถึง ผู้หญิงใจง่ายที่ผู้ชายสามารถเกี้ยวพาราสีเอามาเชยชมได้ง่ายๆ ทำให้ไม่มีความสำคัญ
  52. ดาบสองคม
    หมายถึง การกระทำที่อาจเกิดผลดีและผลร้ายได้พอๆกัน เปรียบได้กับดาบ ถ้าดาบนั้นมีคมทั้งสองข้าง มันก็ดีใช้ฟันได้สะดวก ขึ้น แต่ในทางกลับกัน ถ้าดาบมีคมทั้งสองข้าง เมื่อเราใช้ดาบฟันไปข้างหนึ่ง คมอีกข้างหนึ่ง ก็อาจทำร้ายถูกตัวเราได้
  53. ดาวล้อมเดือน
    หมายถึง คนที่มีบริวารอยู่รายล้อมเป็นจำนวนมาก เหมือนดวงดาวที่อยู่ล้อมดวงจันทร์
  54. ดินพอกหางหมู
    หมายถึง นิสัยที่ชอบปล่อยให้การงานคั่งค้างสะสม ผัดวันประกันพรุ่ง เกียจคร้าน ไม่ยอมทำให้สิ่งนั้นสำเร็จเสร็จสิ้นโดยเร็ว จนในที่สุดการงานต่างก็สะสมพอกพูนขึ้นจนยากที่จะสะสางให้เสร็จได้โดยง่าย
  55. นกสองหัว
    หมายถึง คนที่ทําตัวฝักใฝ่เข้าด้วยทั้ง ๒ ฝ่ายที่ไม่เป็นมิตรกันโดยหวังประโยชน์เพื่อตน
  56. นิ่งเป็นสิงโตหิน
    หมายถึง นิ่งเฉยไม่มีท่าทีใด ๆ
  57. น้ำขึ้นให้รีบตัก
    หมายถึง เมื่อมีโอกาสหรือเมื่อโอกาสมาถึงก็จงรีบคว้าหรือรีบทำ
  58. น้ำตาเป็นเผาเต่า
    หมายถึง ร้องไห้น้ำตาไหลพราก
  59. น้ำท่วมปาก
    หมายถึง การรู้อะไรแล้วพูดไม่ได้ พูดไม่ออกไม่สามารถพูดออกมาได้ เพราะมีความจำเป็นบางอย่างหรือเพราะเกรงจะมีภัยมาถึงตนเองแก่ตนหรือผู้อื่นที่เกี่ยวข้องด้วย
  60. น้ำผึ้งหยดเดียว
    หมายถึง เหตุที่เกิดเพียงเล็กน้อย
  61. ปากดี
    หมายถึง พูดแบบไม่เกรงกลัว
  62. ปากปราศัยน้ำใจเชือดคอ
    หมายถึง พูดดีแต่คิดร้าย
  63. ปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม
    หมายถึง ยังเป็นเหมือนเด็กไม่มีความคิด เป็นการว่ากล่าวตำหนิคนที่ชอบอวดดี คิดว่าตนเองเก่งกว่าผู้อื่น
  64. ผักชีโรยหน้า
    หมายถึง การทำความดีหรือกระทำการใดๆเพียงเพื่อให้ผู้อื่นเห็นว่างานเสร็จแล้ว เรียบร้อย สวยงาม แต่ในความเป็นจริงแล้ว สิ่งนั้นยังไม่สำเร็จเรียบร้อย
  65. ฟังหูไว้หู
    หมายถึง การรับฟังเรื่องราวต่าง ๆ แต่ไม่เชื่อทั้งหมดในทันที แต่รับฟังไว้ก่อนแล้วจึงพิจารณาในภายหลังว่าสิ่งนั้นเชื่อถือได้หรือไม่
  66. มือซุกหีบ
    หมายถึง เข้าไปยุ่งเกี่ยว รับภาระหรือยุ่งเรื่องอื่นที่ไม่ใช่ภาระของตนเอง
  67. ยืนกระต่ายขาเดียว
    หมายถึง พูดยืนยันอยู่คำเดียว โดยไม่เปลี่ยนความคิดเดิม, มักพูดว่า ยืนกระต่ายขาเดียว
  68. รักวัวให้ผูกรักลูกให้ตี
    หมายถึง หากลูกทำผิดก็ควรอบรมสั่งสอน ดุด่าว่ากล่าว และลงโทษเมื่อกระทำความผิดตามสมควร
  69. รีดเลือดกับปู
    หมายถึง การบังคับขู่เข็ญเพื่อเอาผลประโยชน์กับผู้ที่ไม่มีความสามารถที่จะให้สิ่งที่ต้องการได้ เช่น การรีดไถเงินจากคนที่มีความยากจน
  70. รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม
    หมายถึง เรียนรู้ไว้ไม่หนักเรี่ยวหนักแรงหรือเสียหายอะไร
  71. สวมหัวโขน
    หมายถึง เอาหัวโขนสวมศีรษะ, โดยปริยายหมายความว่า ดำรงตำแหน่งหน้าที่ใหญ่โตหรือมียศถาบรรดาศักดิ์แล้วมักลืมตัวชอบแสดงอำนาจ
  72. สวมเขา
    หมายถึง ทำความอัปยศให้แก่สามีด้วยการมีชู้โดยที่สามีไม่รู้ระแคะระคาย
  73. สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น
    หมายถึง การบอกเล่าบอกต่อผ่านคนมามากๆ ก็ไม่เท่ากับเราได้เห็นด้วยตาตนเอง อย่าเพิ่งไปเชื่อสิ่งที่คนบอกต่อ ๆ กันมา จะจริงหรือไม่ต้องไปสัมผัสไปเห็นด้วยตัวเอง
  74. สู้ยิบตา
    หมายถึง สู้จนถึงที่สุด, สู้ไม่ถอย, เช่น เขาสู้ยิบตาแม้ว่าจะสะบักสะบอมเพียงใดก็ไม่ยอมแพ้. (กร่อนมาจากสำนวนเกี่ยวกับการตีไก่ซึ่งถูกตีจนต้องเย็บตาว่า สู้จนเย็บตา)
  75. หนอนหนังสือ
    หมายถึง คนที่ชอบหมกมุ่นอยู่กับการอ่านหนังสือ
  76. หนักเอาเบาสู้
    หมายถึง ขยันขันแข็งไม่เกี่ยงงาน
  77. หนีเสือปะจระเข้
    หมายถึง หนีภัยอันตรายอย่างหนึ่งแล้วต้องพบภัยอันตรายอีกอย่างหนึ่ง
  78. หนูตกถังข้าวสาร
    หมายถึง ชายที่ฐานะไม่ค่อยดี ยากจน แต่งงานกับหญิงที่ร่ำรวยและมั่งคั่งกว่าตัว
  79. หน้าต่างมีหู ประตูมีช่อง
    หมายถึง ความลับรักษาได้ยาก
  80. หมาจนตรอก
    หมายถึง คนที่ฮึดสู้อย่างสุดชีวิตเพราะไม่มีทางเลือก ในสำนวนว่า สู้เหมือนหมาจนตรอก
  81. หมาเห่าใบตองแห้ง
    หมายถึง คนที่ทำตัวเองเหมือนมีความเก่งกล้าสามารถ แต่จริงแล้วเป็นคนที่ขี้ขลาดไม่กล้าจริงอย่างที่พูด
  82. หวังน้ำบ่อหน้า
    หมายถึง ของที่ได้แน่นอนแล้วไม่เอา กลับไปคาดหวังกับสิ่งที่ยังมาไม่ถึง
  83. หอกข้างแคร่
    หมายถึง การมีศัตรูอยู่ใกล้ตัวเช่นคนใกล้ชิดที่อาจคิดร้ายขึ้นมาเมื่อไรก็ได้
  84. อ้าปากเห็นลิ้นไก่
    หมายถึง รู้ทันกัน รู้ทันสิ่งที่จะทำ
  85. เกลือเป็นหนอน
    หมายถึง ญาติมิตร สามีภรรยา บุตรธิดา เพื่อนร่วมงาน หรือคนในบ้าน คิดคดทรยศ
  86. เก็บเล็กผสมน้อย
    หมายถึง เก็บไว้ทีละเล็กละน้อย
  87. เค็มเป็นเกลือ
    หมายถึง ขี้งก ตระหนี่ ขี้เหนียวสุด ๆ เหมือนเกลือที่เค็มสุด ๆ
  88. เงยหน้าอ้าปาก
    หมายถึง การมีฐานะที่ดีขึ้นกว่าเดิม ดูแลตัวเองได้ไม่เดือดร้อน มีฐานะที่พอทัดเทียมกับเพื่อนได้
  89. เชือดไก่ให้ลิงดู
    หมายถึง ทำโทษเพื่อไม่ให้ผู้อื่นเอาเป็นเยี่ยงอย่าง
  90. เฒ่าหัวงู
    หมายถึง คนแก่หรือคนมีอายุมากที่มีนิสัยเจ้าชู้ มีเล่ห์เหลี่ยม ชอบใช้กลอุบาย หลอกล่อเด็กสาวไปบำเรอความสุข ในทางกามารมณ์
  91. เถียงคำไม่ตกฟาก
    หมายถึง เถียงได้ไม่หยุดปาก มักจะใช้กับเด็กที่เถียงผู้ใหญ่อยู่เสมอ
  92. แกะดำ
    หมายถึง คนที่ทําอะไรผิดเพื่อนผิดฝูงในกลุ่มนั้น ๆ (ใช้ในทางไม่ดี)
  93. แก้วลืมคอน
    หมายถึง คนที่รักกันแล้วแต่ยังไปหลงรักคนอื่น
  94. แจงสี่เบี้ย
    หมายถึง การพูดชี้แจงหรืออธิบายอย่างละเอียดถี่ถ้วน
  95. โคแก่กินหญ้าอ่อน
    หมายถึง ชายอายุเยอะ ที่มีภรรยามีอายุอ่อนคราวลูกคราวหลาน
  96. ใจดีสู้เสือ
    หมายถึง การทำใจกล้า ควบคุมจิตใจให้เป็นปกติ ไม่หวั่นไหวไปกับเหตุการณ์ตรงหน้า เมื่อต้องเจอกับสิ่งที่น่ากลัวหรือเป็นอันตราย
  97. ไก่หลง
    หมายถึง ผู้หญิงเสแสร้งแอ๊บแบ๊ว ทำตัวเป็นคนดีผู้ดี มาเที่ยวตีสนิทผู้ชายเพื่อคอยหลอกลวง
  98. ไก่ได้พลอย
    หมายถึง การที่ได้ของมีค่ามาแต่ไม้รู้คุณค่าของสิ่งนั้น
  99. ไข่ในหิน
    หมายถึง ของที่ต้องระมัดระวังทะนุถนอมและหวงอย่างยิ่ง ไม่ยอมให้ไครมาทำอันตรายเด็ดขาดหรือเข้ามาเกี่ยวข้องได้โดยง่าย
  100. ไฟไหม้ฟาง
    หมายถึง อารมณ์ที่เกิดขึ้นอย่างวู่วาม สักพักก็หาย

คิดว่าน่าจะเต็มอิ่มกับสำนวนไทยทั้ง 100 คำกันไปแล้วเนอะ หวังว่าน่าจะพอมีประโยชน์ให้นำไปใช้ต่อในชีวิตประจำวันกัน

หากยังไม่เจอคำไหน หรือคิดว่ามีตกหล่นไป สามารถแจ้งแนะนำกันเข้ามาได้เลย


รายการสำนวนไทยยอดนิยมอื่น ๆ

 แสดงความคิดเห็น